สถานที่ท่องเที่ยว
วัดป่าอาจารย์มั่น ( ภูริทตฺโต )
ช่องทางการติดต่อ : 080-129-0545 (ไวยาวัจกรวัดป่าอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต)
ประวัติความเป็นมาของวัดป่าอาจารย์มั่นอธิบายเรื่องราว : ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตมหาเถร กําเนิดในสกุลแก่นแก้ว มีนายคําด้วง เป็นบิดา นางจันทร์ เป็นมารดา เกิดวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ปีมะแม ตรงกับวันที่ 20 มกราคม พุทธศักราช 2413) ณ บ้านคําบง ตําบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานีเมื่ออายุได้ 15 ปี (พ.ศ. 2428 ) ได้บรรพชาเป็นสามเณรในสํานักวัดบ้านคําบง (ปัจจุบันคือวัดศรีบุญเรือง บ้านคําบง ตําบลสงยาง อําเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี) บวชเป็นสามเณรได้อยู่ได้ 2 ปี บิดาขอร้องให้ ลาสิกขาเพื่อช่วยการงานทางบ้าน เมื่ออายุได้ 17 ปี (พ.ศ. 2430 )ครั้นอายุได้ 22 ปี จึงได้ขออนุญาตบิดามารดา อุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ ในธรรมยุตนิกาย ณ วัดศรีทอง (ปัจจุบัน คือ วัดศรีอุบลรัตนาราม) อําเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี พระอริยกวี (ธมฺมรกฺขิโต อ่อน) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสีทา ชยเสโน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูประจักษ์อุบลคุณ (สุ่ย ญาณาสโย) เป็นพระอนุ-สาวนาจารย์ ในวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2436 ได้ฉายาว่า ภูริทตฺโต เมื่อได้อุปสมบทแล้วได้เข้าศึกษา วิปัสสนาธุระในสํานักท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล ณ วัดเลียบ อําเภอเมือง จังหวัด อุบลราชธานี ต่อไปในการศึกษาปฏิบัติกัมมัฏฐานภาวนากับท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล นั้น ในตอนแรก ๆ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ก็ติดตามท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล ออกไป วิเวกกระทําความเพียรตามป่า ภู ถ้ำ ฯลฯ บางครั้งก็ข้ามแม่น้ําโขง ไปยังฝั่งประเทศลาว แต่ใน ตอนหลัง ๆ ท่านมักจะธุดงค์ไปองค์เดียวหรือบางครั้งก็ไปกับหมู่คณะบ้าง 2-3 องค์ ทั่วทั้ง ภาคอิสานเหนือ อิสานใต้ ภาคกลาง และภาคเหนือของประเทศไทย บางครั้งก็ข้ามไปยังต่างประเทศ เช่น ประเทศลาว ประเทศพม่า เป็นต้นเมื่อท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตมหาเถร บรรลุธรรมขั้นสูงสุดเป็นพระอริยบุคคลขั้นพระอรหันต์ในเขตถิ่นภาค ณ สถานที่แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่นี้แล้ว ท่านยังไม่กลับภาคอิสาน ถิ่นบ้านเกิดของท่านทีเดียว ท่านยังคงจารึกอยู่ในเขตภาคเหนืออีกระยะหนึ่ง ในช่วงระยะนี้ ท่านได้แวะเวียนมาพักจําพรรษา ณ บริเวณวัดร้างป่าแดง บ้านแม่กอย ตําบลเวียง อําเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ นี้ 1 พรรษา ประมาณปี พ.ศ. 2481 พร้อมด้วย พระสงฆ์เถระที่เป็นศิษย์ 3-4 องค์ ส่วนพระสงฆ์เถระที่เป็นศิษย์อื่น ๆ อาทิเช่น ท่านพระอาจารย์เทสก์ เทสฺรงสี ท่านพระอาจารย์ ขาว อนาลโย ท่านพระอาจารย์แหวน สุจิณฺโณ ท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ท่านพระอาจารย์สิม พุทฺธา-จาโร ฯลฯ จะพักอยู่ตามเสนาสนะป่ารอบ ๆ วัดร้างป่าแดง บ้านแม่กอยนี้ เมื่อถึงวัน พระใหญ่ก็จะมาร่วมประชุมทําสังฆกรรมฟังพระปาฏิโมกข์ และฟังธรรมะอบรมแนะนำสั่งสอนจาก ท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโตเสมอ ๆ
เมื่อท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตมหาเถร บรรลุธรรมขั้นสูงสุดเป็นพระอริยบุคคลขั้นพระอรหันต์ในเขตถิ่นภาค ณ สถานที่แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่นี้แล้ว ท่านยังไม่กลับภาคอิสาน ถิ่นบ้านเกิดของท่านทีเดียว ท่านยังคงจารึกอยู่ในเขตภาคเหนืออีกระยะหนึ่ง ในช่วงระยะนี้ ท่านได้แวะเวียนมาพักจําพรรษา ณ บริเวณวัดร้างป่าแดง บ้านแม่กอย ตําบลเวียง อําเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ นี้ 1 พรรษา ประมาณปี พ.ศ. 2481 พร้อมด้วยพระสงฆ์เถระที่เป็นศิษย์ 3-4 องค์ ส่วนพระสงฆ์เถระที่เป็นศิษย์อื่น ๆ อาทิเช่น ท่านพระอาจารย์เทสก์ เทสฺรงสี ท่านพระ-อาจารย์ ขาว อนาลโย ท่านพระอาจารย์แหวน สุจิณฺโณ ท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ท่านพระอาจารย์สิม พุทฺธา-จาโร ฯลฯ จะพักอยู่ตามเสนาสนะป่ารอบ ๆ วัดร้างป่าแดง บ้านแม่กอยนี้ เมื่อถึงวัน พระใหญ่ก็จะมาร่วมประชุมทําสังฆกรรมฟังพระปาฏิโมกข์ และฟังธรรมะอบรมแนะนำสั่งสอนจาก ท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโตเสมอ ๆที่เสนาสนะวัดร้างป่าแดง (ต่อมาก็คือวัดป่าอาจารย์มั่นในปัจจุบันนี้เอง) บ้านแม่กอย นี้ เช้าวันหนึ่ง หลังจากฉันภัตตาหารเช้าแล้วท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ได้กล่าวแก่บรรดาพระสงฆ์ที่เป็นศิษย์ ณ ที่นั้นเชิงประกาศความสําเร็จภารกิจในการบําเพ็ญเพียรเพื่อกระทําที่สุดแห่งทุกข์ ของท่านว่า “ผมคงไม่มีงานที่จะทําอยู่กับพวกท่านหรอก ผมคงอยู่กับพวกท่านไปไม่มีงานทํา แต่ก็คงอยู่กับพวกท่านไป พวกท่านก็พากันตั้งใจปฏิบัติแต่พวกท่านอย่าไปบอกญาติโยมนะ”ผู้ที่เปิดเผยคำพูดนี้คือ หลวงปู่คําอ้าย ซึ่งนั่งร่วมฉันภัตตาหารอยู่ ณ ที่นั้นด้วย โดยถ่ายทอดคําพูดนี้ผ่านทางหลวงพ่อเปลี่ยน ปญญาปทีโป แห่งวัดอรัญวิเวก บ้านปง ตําบลอินทขิล อําเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ได้อยุู่สงเคราะห์หมุ่คณะและประชาชนถิ่นภาคเหนือนี้ รวมทั้งหมดติดต่อกันเป็นระยะเวลานานถึง 11 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471-2482 จึงได้กลับมาจังหวัด อุดรธานีตามคําอาราธนาของพระธรรมเจดีย์ (จุม พนฺธุโร) วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัด อุดรธานี เพื่ออนุเคราะห์ สงเคราะห์หมู่คณะและสาธุชนในถิ่นภาคอิสานอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ท่านจากไปอยู่ถิ่นภาคเหนือเสียนาน
แผนที่การเดินทาง